วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อีซูซุเปิดตัว All-new Isuzu D-Max เคาะราคาต่ำสุด 4.65 แสน

Isuzu 2012 หรือ All new Isuzu D-Max


อีซูซุเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่ "อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด" เริ่มวางจำหน่าย 14 ตุลาคมนี้

          เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์จำกัด ได้เปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่ "อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด" (the All-new Isuzu D-Max) ที่เป็นการพลิกโฉมหน้าปิกอัพรุ่นใหม่ ด้วยการผสานเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์และเทคโนโลยียานล้ำสมัย ความเร็วประหนึ่งรถไฟหัวกระสุน กำหนดมาตรฐานใหม่ อีกทั้งคิดค้นและสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถปิกอัพทั่ว โลกอย่างแท้จริง

          โดย คนไทยจะได้สัมผัสรถรุ่นใหม่นี้ก่อนประเทศใดในโลก ที่ซึ่งมีการเปิดตัว The All New Isuzu D-MAX ในรอบสื่อมวลชนไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (29 กันยายน) ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี และจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 14 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป สนนราคาเริ่มต้น รุ่นสปาร์ค ตอนเดียว ราคา 465,000 บาท ส่วนรุ่นท็อป วี-ครอส 4 ประตู ราคา 994,000บาท


 คุณสมบัติพิเศษของอีซูซุดีแมคซ์ใหม่

รูปลักษณ์ภายนอก

          สำหรับอีซูซุ ดีแมคซ์ โฉมใหม่นั้น มาพร้อมกับรูปลักษณ์แนวสปอร์ต มีการดีไซน์ด้านหน้าให้เป็นแบบสามมิติ เพิ่มความชัดในการมองเห็น มีไฟหน้าขนาดใหญ่ และไฟท้ายแบบ LED ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการรถกระบะที่มีการนำเอาไฟแบบ LED มาใช้ และตัวถังแค็ปเปิดได้

ห้องโดยสาร

          เป็นการดีไซน์แบบ "DELUXE CAPSULE" ผสานกับ "UNIVERSAL DESIGN" ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ สะดวกสบายเหมาะสมกับทุกสรีระ ส่วนเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

แผงหน้าปัด

          ดีไซน์แผงหน้าปัดขนาดใหญ่แบบ Super Vision ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ แถมยังมีโหมดภาษาไทยให้เลือกด้วย ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และปรับความสว่างได้อัตโนมัติ

ระบบเสียง

          ติดตั้งระบบเสียงเป็นแบบ "SURROUND SOUND" สูงสุดถึง 8 ลำโพง มีลำโพงคู่หน้าขนาดใหญ่พิเศษ FULL-SIZE 6x9 นิ้ว และลำโพง EXCITER ติดตั้งบนเพดาน ช่วยให้เสียงสมจริงทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชั่นปรับระดับเสียงโดยอัตโนมัติตามความเร็วของรถ
เครื่องยนต์

          สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ 2500 Ddi VGS TURBO หรือเทอร์โบแปรผัน สามารถรีดกำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที ส่วนเครื่องยนต์  2500 Ddi TURBO รีดกำลังสูงสุดได้ 116 แรงม้าเท่าเดิม และหากเป็นเครื่องยนต์ 3000 Ddi VGS TURBO จะให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที

เกียร์

          ปรับเกียร์ใหม่เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม "REV-TRONIC" ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจ และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด แบบ "SPORT-SHIFT" ช่วยให้เข้าเกียร์ง่ายจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไหลลื่น

ล้อและช่วงล่าง

          ขยายฐานและความกว้างของล้อให้ใหญ่ขึ้น กระจายน้ำหนักได้สมดุลขึ้น ด้วยการจัดตำแหน่งเครื่องยนต์ใหม่ให้อยู่เยื้องหลังล้อคู่หน้า พร้อมแชสซีส์ขนาดใหญ่ในรถระดับเดียวกัน ส่วนช่วงล่างได้รับการออกแบบมาให้เป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยส์สปริง และแหนบขนาดยาวพิเศษในช่วงล่างหลัง เพื่อให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น

ระบบความปลอดภัย

          มั่นใจได้ด้วยระบบความปลอดภัยแบบป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ ด้วยเบรก ABS พร้อม EBD และ BA นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทรงตัว ESC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว ประกอบกับหม้อลมเบรกขนาดใหญ่พิเศษ 10.5 นิ้ว พร้อม TIED-BAR ดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ 300 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์แบบลูกสูบคู่

          ที่สำคัญ อีซูซุดีแมคซ์โฉมใหม่ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยแบบป้องกันขณะเกิด อุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบเหล็กกล้า ที่ผลิตจากเหล็กหนาพิเศษ และตัวถังแบบซูเปอร์ สเปซแค็บ (SUPER SPACECAB) บานแค็บเปิดได้ (ตู้กับข้าว)

อื่น ๆ

          - แกนพวงมาลัย และแป้นเบรกแบบยุบตัวได้
          - เข็มขัดนิรภัยมีกลไกดึงกลับอัตโนมัติ
          - มีระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ซึ่งจะทำงานทันที เมื่อรถวิ่งได้ความเร็วประมาณ 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
          - ระบบป้องกันกระจกหนีบ (WINDOW JAM PROTECTION) ด้านคนขับ
          - เทคโนโลยี "ISUZU INSIGHT" ช่วยประมวลผลและวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่แบบเฉพาะตัว ทำให้การขับขี่ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น

พรม (พื้น) ของรถยนต์


คำว่า “พรม” ที่อยู่ในรถยนต์ ซึ่งทุกคนรู้จักกันดี แต่ในที่นี้มิได้หมายถึง พรมปูพื้นหรือพรมหน้าปัดแต่อย่างใด แต่ที่จะกล่าวถึงหรือพูดถึงก็คือ พรมพื้นรถยนต์ เชื่อเหลือเกินว่า น้อยคนนักที่จะนึกถึง ต่อให้รักรถขนาดไหนก็ตาม สิ่งต่างๆ ของรถที่พอทำความสะอาดได้ ก็ปฏิบัติกันไป แต่เคยมองหรือเคยคิดไหมว่า พรมพื้นรถยนต์ไม่เคยทำความสะอาดโดยการถอดซักเลย ไม่ว่าอายุของรถท่านจะ 1 ปี, 2 ปี,3 ปี หรือมากกว่า 10 ปี เคยถอดซักกันบ้างไหม ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพยิ่งขึ้น เช่น การสวมเครื่องนุ่งห่มมาทำงานไปเช้าเย็นกลับ เราทุกๆคนยังต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำการถอดซัก เมื่อเป็นดังนี้ คงไม่มีใครใส่เสื้อผ้าตัวเดิมนะครับ อีกตัวอย่างหนึ่ง ผ้ายางปูพื้นหรือพรมปูพื้น ท่านเจ้าของรถทุกท่าน ยังมีการนำออกมาซักมาล้างกัน จริงอยู่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แต่สำหรับพรมปูพื้นรถยนต์เป็นเรื่องที่ยาก ค่าใช้จ่ายในการถอดซักก็สูงและใช้เวลาที่นานพร้อมกับความยุ่งยากก็มี

สำหรับเจ้าของรถแค่ดี ก็แค่ดูดฝุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออก พรมก็เหมือนพรมทั่วไป จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความสะอาด มิฉะนั้นจะเป็นที่สะสมของเชื้อโรค เนื่องจากสิ่งสกปรกนั่นเอง อย่าลืมนะครับว่าอากาศภายในห้องโดยสาร หมุนเวียนอยู่ในรถ ดังนั้น ผู้โดยสารจะได้รับสิ่งเหล่านั้นเต็มๆ ต่อให้มีเครื่องฟอกอากาศก็ตาม

การที่เจ้าของรถจะทำการถอดพรมซัก คงกระทำไม่ได้อย่างแน่นอน การปฏิบัติถือว่ายากมากๆต้องให้สถานบริการเฉพาะถึงจะทำได้ หรือ ให้ศูนย์บริการรถยนต์รุ่นนั้นๆดำเนินการให้ สำหรับรถยนต์ที่ยังอยู่ในระยะรับประกันด้วยละก็ไม่ควรให้ผู้อื่นทำอย่างเด็ดขาด เพราถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น จะหาผู้รับผิดชอบลำบาก การรับประกันของรถยนต์นั้นๆจะมีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าให้ศูนย์บริการรถยนต์นั้นๆทำ ปัญหาคงไม่มีอย่างแน่นอนเช่นกัน

การที่กล่าวอย่างนี้ไม่ใช่ให้ซักพรมเป็นประจำนะครับ เพียงแต่ให้นึกถึงชิ้นส่วนที่เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บ้าง เชื่อเหลือเกินว่าในคู่มือการใช้รถยนต์เกือบทุกยี่ห้อก็มิได้ระบุว่าควรปฏิบัติเช่นไรกับพรมพื้นรถยนต์ การที่จะทำการถอดพรมพื้นรถยนต์ออกซักนั้น ขอให้พิจารณาถึงความสกปรกหรือความจำเป็นขณะนั้น เวลาในการซักจนถึงตากแห้งต้องมีอย่างน้อยก็เป็นวัน และก็ต้องเป็นวันที่แดดดีอีกด้วย

หากมีการถอดพรมพื้นรถยนต์ซักเจ้าของรถจะต้องนำทรัพย์สินมีค่าออกจากรถด้วย เพราะเป็นไปได้สูงที่รถยนต์ของท่านที่จะต้องค้างคืน (ไม่ใช่ศูนย์บริการควรระวัง) แต่ถ้าเจ้าของรถยอมรับสภาพของรถที่ไม่มีพรมปูพื้นได้ก็ OK อีกอย่างหนึ่งหากต้องทิ้งกุญแจรถไว้ด้วย แล้วละก็ ยิ่งหวาดเสียวใหญ่เลย ขอให้ระวังเรื่องพวกนี้ไว้บ้าง คงเคยได้ยินข่าวกันนะครับ ว่ารถยนต์หรูยี่ห้อหนึ่ง ไปเที่ยวสถานบันเทิง แล้วเด็กรับรถนำรถเขาไปที่อื่น ทำนองขโมยรถไปนั่นแหล่ะ ขนาดสถานบันเทิงมีชื่อเสียง และผู้นั้นก็ไปบ่อยนะครับ รู้สึกว่าจะอยู่แถวซอยทองหล่อกับอีกหลายข่าวที่บอกว่า จอดรถไว้หน้าบ้านแล้วหาย ก็อาจเป็นไปได้ว่าเจ้าหัวขโมยมีกุญแจเหมือนรถยนต์ของเราก็เป็นไปได้ ใครจะรู้ ดังนั้น ควรพิจารณากันให้ดี แล้วจะมีความสุขครับ


Toyota Corolla Altis ปรับโฉมใหม่ เครื่องยนต์ Dual VVT-i

เครื่องยนต์ใหม่ Dual VVT-i


เครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ปรับจังหวะเปิด-ปิด วาล์วไอดีและไอเสียแบบแปรผัน สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยควบคุมปริมาณไอดี ให้เหมาะสมกับ การจุดระเบิดในทุกจังหวะความเร็วรอบเครื่องยนต์ และการปรับจังหวะของวาล์วไอเสียช่วยให้การปล่อยไอเสียมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้สมบูรณ์ อัตราเร่งดี ประหยัดน้ำมัน และช่วยลดมลพิษ (ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4)
มีเครื่องยนต์ทั้งหมด 4 รุ่น คือ
  • เครื่องยนต์ 2000 ซีซี 3ZR-FE ACIS (Acoustic Control Induction System) แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-I พร้อมระบบ ACIS ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด187 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที
  • เครื่องยนต์ 1800 ซีซี 2ZR-FE ACIS (Acoustic Control Induction System) แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-I พร้อมระบบ ACIS ให้กำลังสูงสุด140 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด173 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
  • เครื่องยนต์ 1600 ซีซี 1ZR-FEแบบ4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด154 นิวตัน-เมตร / 5,200 รอบต่อนาที
  • เครื่องยนต์ 1600 ซีซี CNG 3ZZ-FE แบบ4 สูบแถวเรียง DOHC VVT-i ให้กำลังสูงสุด109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด145 นิวตัน-เมตร ที่4,400 รอบต่อนาที

ระบบเกียร์ใหม่

  • เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด อีกขั้นแห่งเทคโนโลยีที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวล ราบรื่น เร้าใจทุกการเดินทาง พร้อมปรับระดับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้คงอยู่ในรอบต่ำ แม้ในขณะเร่งความเร็ว จึงประหยัดน้ำมันได้มากกว่า (เฉพาะรุ่น 2.0 และ 1.8 ทุกรุ่น)
  • เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์ ไหลลื่น ต่อเนื่อง ในทุกสภาพถนน และประหยัดน้ำมัน (เฉพาะรุ่น 1.6J M/T)

 ภายนอกตกแต่งใหม่

 

กันชนหน้า-กระจังหน้า และกันชนหลัง ดีไซน์เข้ม ไฟหน้าและไฟหลัง เฉียบคม สะดุดตา พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วลายใหม่แบบ 5 ก้าน สปอร์ตทุกมุมมอง (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น และ 1.8G)

ภายใน

 แผงคอนโซลลายใหม่ วิทยุเพิ่มฟังก์ชั่น AUX ตอบสนองทุกความบันเทิงสมัยใหม่ (เฉพาะรุ่น 2.0V 2.0G 1.8ทุกรุ่น 1.6G และ 1.6E) พวงมาลัยสไตล์สปอร์ตพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น) มาตรวัดเรืองแสง ชัดเจน ตลอดการเดินทาง (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น และ 1.8G) เบาะหนังชิ้นกลางเจาะรูแบบสปอร์ต เพิ่มความสบายขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น 2.0 ทุกรุ่น 1.8 ทุกรุ่น และ 1.6G)


ระบบความปลอดภัย

 

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
  • โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย
  • โครงสร้างเบาะนั่งแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) สำหรับเบาะนั่งด้านหน้า เพื่อลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชนและลดการ บาดเจ็บจากการรัดดึง ของระบบเข็มขัดนิรภัย