วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

Mitsubishi จับมือ Fiat พัฒนารถกระบะรุ่นใหม่


Mitsubishi จับมือ Fiat พัฒนารถกระบะรุ่นใหม่


          Mitsubishi ประกาศจับมือกับ Fiat อย่างเป็นทางการ ร่วมมือกันสร้างรถกระบะขนาดกลาง ต่อยอดลุยตลาดยุโรป

          มิตซูบิชิ (Mitsubishi) ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ เฟียต (Fiat) ค่ายรถยนต์จากอิตาลี หลังจากลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เรื่องการร่วมกันพัฒนารถกระบะขนาดกลางรุ่นใหม่สำหรับตลาดโลก หลังจากมีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับเรื่องนี้

          เมื่อปี 2013 มิตซูบิชิได้เผยแนวทางการทำตลาดรถยนต์ของตนเองใหม่โดยจะเน้นไปที่บรรดารถกระบะและครอสโอเวอร์ รวมทั้งรถไฮบริดด้วย ซึ่งปัจจุบัน มิตซูบิชิมีรถกระบะอย่าง มิตซูบิชิ แอล-200 (Mitsubishi L-200) หรือมิตซูบิชิ ไทรทัน (Mitsubishi Triton) ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งมิตซูบิชิได้ให้เฟียตเป็นผู้ผลิตและจัดการจำหน่ายในยุโรป
          ทางด้านเฟียตเองก็มีความพยายามจะผลักดันรถกระบะของตนเองเช่นกัน โดยเคยร่วมมือกับทาทา (Tata) ค่ายรถยนต์จากอินเดียเมื่อปี 2008 นำโครงสร้างจากทาทา ซีนอน (Tata Xenon) มาดัดแปลง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด การร่วมมือกับมิตซูบิชิซึ่งมีกระบะที่นิยมอยู่แล้วจึงเป็นทางออกที่ดีกว่า

          ทั้งนี้ในการลงนามยังไม่ได้เปิดเผยว่ารถกระบะรุ่นใหม่ผลงานของมิตซูบิชิและเฟียตจะเป็นอย่างไร แต่คาดว่าจะต่อยอดจากรถต้นแบบกระบะดีเซลไฮบริด มิตซูบิชิ จีอาร์-เอชอีวี (Mitsubishi GR-HEV) ซึ่งคนไทยจะได้สัมผัสกับกระบะรุ่นดังกล่าวแน่นอนในฐานะของมิตซูบิชิ ไทรทันโฉมใหม่ภายในปี 2016 ครับ

เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 กระบะสุดหล่อเฉพาะชาวสหรัฐฯ เท่านั้น


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก netcarshow  

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 US Spec กระบะ Mid-Size เพื่อชาวสหรัฐฯ ดึงดีไซน์จาก Chevrolet Silverlado พร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยมเกินตัว

          เชฟโรเลต (Chevrolet) ค่ายรถยนต์จากสหรัฐฯ ได้เปิดตัวรถกระบะขนาดกลางหรือ Mid-Size Truck อย่าง เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (Chevrolet Corolado) ล่าสุดที่ออกแบบเพื่อชาวสหรัฐฯ สืบสานดีเอ็นเอการออกแบบมาจากกระบะรุ่นใหญ่ยอดนิยม พร้อมด้วยสมรรถนะยอดเยี่ยมเกินขนาด

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 คันนี้เป็นคนละโฉมกับที่จำหน่ายในบ้านเราและประเทศอื่น ๆ ออกแบบโดยนำแรงบันดาลใจมาจากเชฟโรเลต ซิลเวอร์ลาโด (Chevrolet Silverlado) โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำและไฟหน้าดวงเล็กรมดำเข้มขรึม เส้นฝากระโปรงเรียบหรู ซุ้มล้อเป็นทรงเหลี่ยมมุมมนดูแกร่งแต่ไม่ทิ้งความนุ่มนวล ลงตัวกับล้ออัลลอยลายสวยขนาด 17 นิ้ว ด้านหลังใช้เส้นสายเรียบง่ายตัดกับรายละเอียดเหลี่ยมมุมของกันชนซึ่งเจาะช่องไว้สำหรับก้าวขึ้นเก็บของท้ายกระบะได้อย่างง่ายดาย

 ภายในเน้นความเรียบง่าย แต่มีอุปกรณ์ให้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน หน้าจอแสดงผลตรงกลางรถขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ MyLink, Onstar สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบนำทาง ช่องเก็บของคอนโซลกลางขนาดใหญ่สำหรับเก็บสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต พื้นที่โดยสารภายในเองก็มีขนาดใหญ่ เบาะนั่งลวดลายสวยพร้อมช่องเก็บของใต้เบาะ สะดวกในการใช้งาน

          เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 ของชาวสหรัฐฯ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี กำลัง 193 แรงม้า แรงบิด 235 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,600 ซีซี กำลัง 302 แรงม้า และแรงบิด 366 นิวตันเมตร ตัวเครื่องและกระบอกสูบทำจากอะลูมิเนียม จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งสามารถปรับอัตราทดให้เหมาะสมสำหรับงานลากจูงได้ นอกจากนี้ เชฟโรเลตยังเตรียมติดตั้งเครื่องยนต์ Duramax ขนาด 2,800 ซีซี ให้กับกระบะรุ่นดังกล่าวในอนาคตด้วย

          ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ก็จัดมาให้เต็ม ๆ ทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ดิสก์เบรก 4 ล้อ กล้องมองหลัง ระบบตรวจจับวัตถุด้านหน้า ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ระบบช่วยขับขึ้นและลงเนิน ระบบรักษาสมดุลของรถ StabiliTrak รวมทั้งมีระบบอำนวยความสะดวกด้านการลากจูงทั้งตัวล็อกรถจูง EZ-Lift ที่แข็งแรงแต่ปลดง่ายด้วยมือข้างเดียว ทำงานร่วมกับตัวควบคุมการแกว่งของเทรลเลอร์ เสริมความปลอดภัยในการขับขี่เป็นอย่างดี

          อย่างไรก็ตาม โฉมนี้จะเป็นรุ่นที่จำหน่ายเพียงแต่ในสหรัฐฯ และแคนาดาเท่านั้น เพราะโคโรลาโดในบ้านเราเพิ่งเผยโฉมใหม่และเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่อาจถูกใช้เป็นดีไซน์ในรุ่นปรับโฉมหรือรุ่นใหม่ที่จะจำหน่ายในอนาคตก็เป็นได้ครับ










Toyota และ Lexus เตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมในปี 2015


Toyota และ Lexus เตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมในปี 2015
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

          Toyota และ Lexus เตรียมใช้ส่วนประกอบทำจากอะลูมิเนียมเป็นครั้งแรกกับรุ่นยอดฮิต คาดเผยโฉมในปี 2015

          วัสดุอะลูมิเนียมถือเป็นมิติใหม่ในการพัฒนารถยนต์ ทั้งแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา จึงช่วยทั้งความปลอดภัยและการประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ค่ายรถยนต์ทั้งหลายจึงหันมาใช้วัสดุดังกล่าวกันมากขึ้น ซึ่งล่าสุด เป็นคราวของโตโยต้า (Toyota) ที่เตรียมนำอะลูมิเนียมมาเป็นส่วนประกอบของรถยนต์รุ่นใหม่ในอีกไม่กี่ปีนี้
          โตโยต้าเตรียมใช้วัสดุอะลูมิเนียมกับรถยนต์ในเครือของตน เริ่มต้นด้วยครอสโอเวอร์หรู เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ (Lexus RX) รุ่นปี 2016 ตามด้วยโตโยต้า แคมรี่ (Toyota Camry) รุ่นปี 2018

          เดิมทีแล้ว โตโยต้าเองก็เคยสร้างรถยนต์ที่ทำจากอะลูมิเนียมอยู่หลายรุ่นทั้ง โตโยต้า พรีอุส (Toyota Prius) และโตโยต้า 86 (Toyota 86) ที่ผลิตตามสเปคญี่ปุ่น แต่คราวนี้จะเป็นครั้งแรกที่โตโยต้าจะนำวัสดุอะลูมิเนียมมาใช้ในรถยนต์ที่จำหน่ายในต่างประเทศและเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมอีกด้วย

          แต่อย่างไรก็ตามโตโยต้าจะเลือกใช้อะลูมิเนียมในบางชิ้นส่วนเท่านั้น ซึ่งช่วยให้รถได้น้ำหนักเบาพอประมาณ และสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนัก ส่วนวัสดุอะลูมิเนียมของโตโยต้าจะผลิตโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างโตโยต้า ซูโช กับโกเบ สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ โดยตั้งเป้าผลิตให้ได้ถึง 100,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการของรถยนต์ยอดนิยมทั้ง 2 รุ่น อย่างเพียงพอ

Honda Jazz โฉมยุโรป สีสวย เครื่องประหยัด

ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz 2014) โฉมยุโรป
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก autoblog

          Honda เตรียมเปิดตัว Honda Jazz รุ่นปี 2014 โฉมยุโรป แย้มตัวถังสีไวน์แดง พร้อมเครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่

          คนรักรถชาวไทยหลายคนคงได้สัมผัสกับแฮทช์แบ็ครุ่นยอดฮิตอย่าง ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับชาวยุโรปนั้น ฮอนด้าเพิ่งจะเผยภาพแรกของเจ้าแฮทช์แบ็ครุ่นที่จะจำหน่ายในบ้านเขาออกมา ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

          เริ่มกันที่ภายนอก แม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับโฉมในเอเชียและอเมริกา แต่กลับโดดเด่นสะดุดตายิ่งกว่าด้วยตัวถังสีไวน์แดง หรูหราสวยงามไม่ใช่น้อย ทั้งยังมาพร้อมล้ออัลลอย 6 ก้าน เรียบเท่ ส่วนภายในยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่าคงไม่มีความแตกต่างจากของในไทยมากนัก

          ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของฮอนด้า แจ๊สโฉมยุโรปคือได้ใช้เครื่องยนต์ Earth Dream รุ่นใหม่ ขนาด 1,300 ซีซี เลือกจับคู่ได้ทั้งกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งตัวเลขรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งแรงม้าและค่าประหยัดน้ำมันจะได้ทราบกันในวันเปิดตัว

          ฮอนด้าจะเปิดตัว ฮอนด้า แจ๊ส รุ่นปี 2014 โฉมยุโรปภายในงาน Paris Motor Show ปี 2014 ช่วงเดือนตุลาคมนี้

ซูซูกิ ไฮบริด “อัลโต้-สวิฟท์“ ลูกผสม “ญี่ปุ่น-อินเดีย“

  มารูติ ซูซูกิ อินเดีย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย อยู่ในระหว่างการพัฒนารถยนต์ เทคโนโลยีโลว์คอสต์-ไฮบริด ในราคาจำหน่ายที่ต่ำและประหยัดพลังงาน โดยมารูติตั้งเป้าว่าจะผลิตรถยนต์ที่ราคาจับต้องได้ง่าย สามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 20-30% และต้องการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใส่ในรถยนต์รุ่นอัลโต้ (Alto) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่ราคาต่ำที่สุดของซูซูกิในพอร์ตโฟลิโอ ไปจนถึงรถยนต์แฮตช์แบ็กรุ่นสวิฟท์ (Swift) ภายใน 3-4 ปี

 
นับจากนี้แหล่งข่าวจากมารูติ ซูซูกิ เปิดเผยว่า มันไม่ใช่แค่คอนเซ็ปต์อีกต่อไป นี่คือการทำงานของเราเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นที่สูงขึ้น การพัฒนาครั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับวิศวกรรมด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอินเดีย และรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะถูกจำหน่ายในราคาที่ไม่แตกต่างจากราคารถยนต์ที่ใช้น้ำมันมากนัก
     ส่วนใหญ่รถยนต์ไฮบริดจะมีระบบที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปคือ มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยขับเคลื่อนและเสริมแรงจากพลังงานของเครื่องยนต์และเมื่อทำการเบรก ระบบก็จะดึงพลังงานส่วนเกินกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ ทำให้รถยนต์ไฮบริดสามารถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากกว่า แต่ด้วยราคารถประเภทดังกล่าวที่สูง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อผู้บริโภค การขยายตัวของรถไฮบริดในตลาดโลกจึงค่อนข้างช้า
     อาร์ซี บาร์กาวา (RC Bhargava) ประธานบริษัท มารูติ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระกว่างบริษัทแม่กับมารูติ ซึ่งมารูติเป็นค่ายรถยนต์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในอินเดียนั้น ได้เริ่มต้นทำงานกันที่เทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งมารูติมองว่าลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่มีความเหมาะสมกับสภาพตลาด นั่นคือระบบไฮบริดที่สามารถติดตั้งได้ในรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ราคาประหยัด ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถือว่ามีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมาก

  ก่อนหน้านี้ มารูติได้แนะนำระบบส่งกำลัง "เอเอ็มที" หรือระบบเกียร์ที่ควบรวมระหว่างแมนวลและออโต้ ที่ติดตั้งภายในรถยนต์ซูซูกิ เซเลริโอ ซึ่งผสานความประหยัดของระบบแมนวลเข้ากับความสะดวกสบายของระบบเกียร์ออโต้ ซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี
     ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มารูติน่าจะสามารถทำรถไฮบริดที่สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า 25 กิโลเมตรต่อลิตรอย่างแน่นอน ซึ่งซูซูกิเองก็มีเทคโนโลยีดี ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งเกียร์เอเอ็มที, เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ และรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้คลัตช์ (Clutch-less car) แต่เรื่องสำคัญที่ต้องติดตามต่อไปคือ ยอดขายที่จะคาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งยิ่งมียอดขายที่สูงย่อมส่งผลต่อราคาจำหน่ายที่ต่ำลงด้วย เนื่องจากความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริดขึ้นอยู่กับความสามารถในการเป็นเจ้าของสำหรับลูกค้าอินเดียเป็นสำคัญ
     ขณะเดียวกันบริษัทแม่ของซูซูกิในประเทศญี่ปุ่นก็ได้พัฒนารถยนต์ไฮบริดเวอร์ชั่นสำหรับรุ่นสวิฟท์เรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในกลุ่มรถยนต์โลว์คอสต์ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย2-3 ปี จึงจะสามารถทำตลาดได้

 
     อย่างไรก็ตาม มารูติเองก็ไม่ใช่ค่ายรถเพียงรายเดียวที่สนใจแนวคิดดังกล่าว เพราะค่ายรถ "มหินทรา" ก็กำลังพัฒนารถยนต์ไฮบริดเช่นกัน ภายใต้เทคโนโลยีรถยนต์ ดีเซล-ไฮบริด ที่ใช้ระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา ในชื่อรหัสโปรเจ็กต์คือ "W202" คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
     ทั้งนี้ รัฐบาลกลางอินเดียก็กำลังพิจารณาเพิ่มการซับซิไดซ์สำหรับรถยนต์ไฮบริด ภายใต้แผนการพัฒนายานยนต์อิเล็กทริกส์แห่งชาติ ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มจำนวนรถยนต์อิเล็กทริกส์ (รวมถึงรถไฮบริดด้วย) ให้มากขึ้นเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในปี 2563 ตามแผนที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงเหลวอย่างน้อย 0.4 ล้านตัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์อิเล็กทริกและไฮบริดจะอยู่ที่ 1.4 ล้านคัน ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียต้องมองหาทางเลือกที่ปฏิบัติได้จริงในการลดการนำเข้าน้ำมัน

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

Volkswagen รุกหนักอาเซียน ตั้งโรงงานทั้งในไทยและอินโด

Volkswagen รุกหนักอาเซียน ตั้งโรงงานทั้งในไทยและอินโด
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก livelifedrive

          Volkswagen รุกหนักภูมิภาคอาเซียน เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ทั้งในไทยและอินโดนีเซีย หวังเทียบชั้น Toyota

          โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ถือเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากเยอรมนีที่ยังไม่สามารถบุกตลาดในประชาคมอาเซียนเต็มที่นักเมื่อเทียบกับค่ายในระดับเดียวกัน แต่ล่าสุด โฟล์กก็ได้เผยรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นเมื่อพวกเขาเตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่พร้อมกันถึง 2 แห่ง ในสองประเทศชั้นนำด้านยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียนอย่างไทยและอินโดนีเซีย

          เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวบิซิเนสเรคคอร์ดเดอร์ รายงานว่า BOI เตรียมอนุมัติการจัดตั้งโรงงานของโฟล์กสวาเกนในประเทศไทย โดยการลงทุนครั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของโครงการอีโค่คาร์เฟส 2 ซึ่งโฟล์กจะต้องผลิตรถยนต์ประหยัดน้ำมันจำหน่ายและส่งออกรวมกันให้ได้ 100,000 คัน ภายในปี 2019 โดยมีข่าวลือว่าโรงงานของโฟล์สวาเกนในไทยจะใช้เงินลงทุนถึง 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 41,000 ล้านบาท) และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว

          นอกจากการลงทุนในประเทศไทยแล้ว บริษัท พีที โฟล์กสวาเกน ตัวแทนจำหน่ายโฟล์กสวาเกนในประเทศอินโดนีเซียยังได้เปิดเผยข้อมูลในงานแสดงรถยนต์ Indonesia International Motor Show 2014 ว่า ทางโฟล์กสวาเกนยังสนใจสร้างโรงงานในอินโดนีเซียด้วย โดยริเริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2013 แต่ต้องหยุดชะงักเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้โฟล์กสวาเกนก็พร้อมจะกลับมาสานต่อโครงการภายในปี 2015 ด้วย
          นับเป็นทิศทางที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตลาดรถยนต์ต้อนรับการมาถึงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากแผนการของโฟล์กสวาเกนสำเร็จ กำลังการผลิตอันยอดเยี่ยมของไทยและอินโดนีเซียอาจส่งให้โฟล์กสวาเกนทำยอดขายในระดับโลกเข้าใกล้โตโยต้า (Toyota) และฟอร์ด (Ford) มากขึ้นก็เป็นได้ครับ

Honda CR-V 2015 ปรับโฉม เฉี่ยวคมขึ้น

Honda CR-V 2015
 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldcarfans

          เผยภาพแรกของ Honda CR-V รุ่นปรับโฉมปี 2015 ปรับดีไซน์เล็กน้อยเพื่อรับกับแนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด

          หลังจากที่ฮอนด้า (Honda) ได้ส่งฮอนด้า ซีอาร์-วี (Honda CR-V) รุ่นปัจจุบันออกมาทำตลาดได้สักพักใหญ่  ในที่สุดก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องปรับโฉมให้กับรถครอสโอเวอร์รุ่นยอดนิยมคันนี้เสียที ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเผยภาพแรกของฮอนด้า ซีอาร์-วีรุ่นปรับโฉมประจำปี 2015 ออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกันแล้ว
          ภาพดังกล่าวเป็นการเผยโฉมเพียงแค่ด้านหน้าของตัวรถเท่านั้น ซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดการออกแบบที่ชัดเจน ทั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ล้อมกรอบด้วยไฟเดย์ไลท์ LED เติมด้วยเส้นสายโครเมียมรอบด้านบนและล่างของกระจังหน้าเชื่อมต่อกับเส้นสายไฟ LED ส่วนด้านล่างโชว์โคมไฟตัดหมอกรูปสี่เหลี่ยมล้อมกรอบโครเมียมดีไซน์ใหม่ โดยทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบให้เหมาะสมกับแนวทาง Exciting H Design อันเป็นแนวทางที่ฮอนด้ายึดกับรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป
Honda CR-V 2013

          ด้านรายละเอียดทางวิศวกรรมคาดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ โดยยังคงใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ทุกประการ

          ฮอนด้าเตรียมเปิดตัวซีอาร์-วี รุ่นปรับโฉมในเร็ว ๆ นี้ ส่วนชาวไทยเองก็มีลุ้นจะได้ใช้ตามโฉมในภาพนี้ภายในปี 2015 แน่นอนครับ
 

 

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

CHEVROLET COLORADO เครื่องยนต์ New Duramax กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง

เริ่มต้นศักราชใหม่ เชฟโรเลต สร้างความคึกคักให้กับตลาดรถปิกอัพในไทยตั้งแต่ต้นปี ด้วยการแนะนำและโปรโมท Chevrolet Colorado โดยเน้นไปที่เครื่องยนต์ DURAMAX ตัวใหม่ล่าสุด พร้อมกับอัดโปรโมชั่นเงินผ่อน ให้สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
 
เครื่อง DURAMAX DIESEL ที่สุดแห่งความแกร่ง ขุมพลังและการประหยัดน้ำมัน
ไม่ว่าใครๆ ก็อยากได้รถกระบะที่มีความครบถ้วน สมบูรณ์แบบ ทั้งความแกร่ง พร้อมลุยทุกสภาวะ เครื่องยนต์ให้พลังที่สูง ขับสนุก สั่งได้ดั่งใจ เร่งแซงทันใจ และประหยัดน้ำมัน ทั้งหมดนี้มีให้ครบทุกข้อในเครื่องยนต์ Duramax รุ่นล่าสุด ถือเป็นจุดขายที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Colorado แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าดีอย่างไร เป็นเหตุผลที่ Chevrolet พยายามสื่อสารให้ถึงผู้บริโภคมากขึ้นในช่วงต้นปีนี้

เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ทำงานเงียบ แต่ยังคงความแรงและประหยัดน้ำมัน คุณลักษณะที่เพิ่มขึ้นมีระบบเทอร์โบแปรผัน, ระบบ Double Overhead Camshaft, ตัวปรับวาล์วอัตโนมัติ, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ระบบ Common Rail แบบหัวฉีด Direct Injection และเพลาถ่วงสมดุล (สำหรับ 2.8L)
ความแรงที่ยังคงความประหยัดนั้น ได้จากการพัฒนาของการใช้หัวฉีด Direct Injection มากไปกว่านั้นยังมีระบบเทอร์โบแปรผันกับไส้กรองอากาศ ข้างระบบหล่อเย็นที่ช่วยปรับอุณหภูมิและความหนาแน่นของอากาศในเครื่องยนต์ เพื่อการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ