วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม

กรุงเทพฯ – ถึงแม้หลายภาคของประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้ง แต่พายุฝนรุนแรงก็มักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงมรสุม ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง
ความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เพิ่มสูงขึ้น สภาปฏิรูปแห่งชาติระบุว่าแผ่นดินในกรุงเทพฯ มีอัตราการทรุดตัวเฉลี่ย 10 มม. ต่อปี ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงน้ำท่วมขังเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝน
CHEVROLET แนะนำ 10 เคล็ดลับการขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง
  • ถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะเมื่อระดับน้ำสูงเกินกว่าขอบทาง
  • ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรปิดแอร์และเปิดหน้าต่าง การขับขี่บนถนนที่มีน้ำท่วมขังขณะเปิดแอร์อาจทำให้เครื่องยนต์ดับ เนื่องจากพัดลมจะทำงานและทำให้น้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนต์ไม่ดับ พัดลมก็จะหมุนรับเศษขยะที่ลอยมาตามน้ำซึ่งจะทำให้พัดลมเสียหายได้ นำไปสู่ปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์ที่สูงเกินไป
  • ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่ากึ่งกลางของล้อรถ สำหรับรถเอสยูวีและรถกระบะขนาดใหญ่อย่างเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์และโคโลราโดสามารถแล่นผ่านถนนที่มีน้ำท่วมสูงได้ แต่ควรตรวจสอบว่ารถของคุณสามารถขับขี่ผ่านระดับน้ำได้สูงเท่าใด
  • ขอให้แน่ใจว่าคุณขับอยู่บนถนนและถนนไม่มีความเสียหายใดๆ หรือถนนขาด ขณะเดียวกันควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจาก อาจมีหลุมที่ลึกเกินกว่าที่รถจะผ่านไปได้ ผู้ขับขี่สามารถจอดรถก่อนถึงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังและสังเกตรถคันอื่นว่า สามารถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
  • ควรขับรถบนกึ่งกลางหรือใกล้กับกึ่งกลางของถนน เนื่องจากระดับน้ำจะต่ำที่สุด ใช้เกียร์ต่ำและรอบเครื่องยนต์สูง ใช้เกียร์หนึ่งหรือเกียร์ “L” ขึ้นอยู่กับประเภทของเกียร์ ควรรักษาความเร็วให้คงที่และไม่เร่งอย่างรุนแรงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้น้ำทะลักเข้าสู่เครื่องยนต์และชิ้นส่วน อิเลกทรอนิก ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับ ขณะเดียวกัน ไม่ควรถอนคันเร่งและหลีกเลี่ยงการหยุดรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง
  • ควรขับรถเข้าสู่บริเวณน้ำท่วมด้วยความเร็วไม่เกิน 3 กม./ชม. และเพิ่มความเร็วเป็น 6 กม./ชม. เมื่อต้องขับผ่านน้ำท่วม ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นน้ำด้านหน้าและลดระดับน้ำโดยรอบห้องเครื่องยนต์ลง ช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าสู่ที่กรองอากาศและสร้างความเสียหายต่อระบบ ไฟฟ้าและชิ้นส่วนต่างๆ หากใช้ความเร็วมากกว่านี้จะทำให้น้ำไหลผ่านกระจังหน้าเข้าสู่ห้องเครื่อง ยนต์ได้
  • ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าพอสมควรหรือขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ทีละคันเพื่อป้องกันการหยุดรถกลางทาง หากรถคันหน้าชะลอความเร็ว ควรระมัดระวังว่าไม่มีรถที่ขับมาจากเส้นทางอื่นเนื่องจากคลื่นของน้ำอาจท่วม รถได้โดยเฉพาะถ้ารถคันอื่นใช้ความเร็วสูงเกินไป
  • เมื่อขับรถออกจากบริเวณที่มีน้ำท่วม ควรย้ำเบรกอย่างนุ่มนวลเป็นระยะ หากผู้ขับขี่มีทักษะสามารถใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกได้ เมื่อรู้สึกว่าเบรกจับตัวแล้วให้กลับมาขับตามปกติ
  • หลังจากขับผ่านน้ำท่วมขังมาแล้ว ควรล้างทำความสะอาดรถโดยเฉพาะใต้ท้องรถและล้อ ล้างเศษหญ้า ใบไม้และสิ่งสกปรกออกให้หมดเนื่องจากอาจติดไฟได้ นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเนื่องจากน้ำอาจรั่วซึมเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์ ควรล้างทำความสะอาดพรมปูพื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา ตรวจสอบลูกปืนและทุกระบบของตัวรถ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างเทคนิคตรวจสอบตัวรถโดยละเอียด
  • ถ้าต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง ควรใช้รถกระบะหรือรถอเนกประสงค์เอสยูวีที่มีความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วไป นอกจากนี้ ท่อไอดีและท่อไอเสียของรถกระบะและรถเอสยูวียังสามารถปรับเพิ่มความสูงได้ถ้า จำเป็นต้องขับผ่านน้ำท่วมขังที่สูง 1 เมตร ท่อไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลสามารถทำงานขณะอยู่ใต้น้ำได้ แต่ท่อไอเสียของเครื่องยนต์เบนซินไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมีแรงดันน้อย กว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น