ยางรถยนต์ก็เหมือนกับชิ้นส่วนอื่นของรถยนต์ ที่จะต้องเอาใจใส่เหมือน ๆ กัน แต่กลับถูกมองข้ามกันไป ซึ่งเจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ เวลาทำความสะอาดรถ จะต้องทำความสะอาดยางอยู่แล้วก็จริงอยู่ แต่สิ่งที่ไม่คำนึงถึงสำหรับเจ้าของรถยนต์นั่นก็คือ การสังเกตวัสดุที่ติดมากับยาง แทบจะตลอดอายุการใช้งานของยางเลย หรือ จนกว่าจะทำการเปลี่ยนยางเป็นต้น (ส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้นจริง ๆ)
วัสดุที่ติดมากับยางมีมากมายที่สามารถทำให้ยางฉีกขาด , ตำทะลุ , อื่น ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้ยางด้อยประสิทธิภาพ นอกจากนั้นส่งผลถึงส่วนถึงแรงดันลมยางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ตะปู , เหล็กแหลม , หิน , กิ่งไม้ และอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่ติดอยู่บนยางได้ทั้งสิ้น หากการขับรถยนต์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ พอหลังจากขับผ่านพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ควรทำการตรวจสอบยางทุกล้อก็จะดีมาก
การตรวจสอบวัสดุที่ติดมากับยาง สามารถกระทำได้โดยไม่ยากเย็นนัก กล่าวคือ หากเราต้องการตรวจสอบและแกะวัสดุที่ติดมากับยางออกตามเส้นรอบวงของยาง ก็ให้จอดรถบนพื้นระดับ ท่านจะสามารถตรวจสอบได้เกือบทั้งเส้นของยาง ยกเว้นขอบยางด้านใน แต่ส่วนใหญ่วัสดุที่ติดอยู่จะอยู่บริเวณดอกยาง ดังนั้นควรกระทำการ ดังนี้
1.จอดรถบนพื้นระดับไม่เอียง จะดึงเบรกมือ หรือ ไม่ดึงแล้วแต่ความสะดวก หรือแม้กระทั่งเข้าเกียร์จอด(ตำแหน่ง P) สำหรับเกียร์อัตโนมัติ
2.หาเครื่องมือขนาดเหมาะมือ กะทัดรัด สำหรับแคะเศษวัสดุออกจากยาง
3.ลงมือตรวจสอบด้วยการก้มลงไปดูหน้ายางของล้อแต่ละสื่อ แล้วแต่ช่องว่างที่สามารถ
มองเห็นและสอดเครื่องมือและเมื่อได้
4.ให้ทำการปฏิบัติให้ครบทุกล้อ
5.ให้ทำการเข็นรถเพื่อให้หน้ายางไปอยู่อีกตำแหน่งหนึ่งเพื่อตรวจสอบตำแหน่งตำแหน่ง
ต่อไป
6.ทำดังเช่นข้อ 3-5 จนครบตามเส้นรอบวง
การทำลักษณะนี้ จริงอยู่ว่ามีความเมื่อยล้าอยู่บ้าง แต่การที่มีความเอาใจใส่ในรถยนต์ของ
ตนเองก็มีความภูมิใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แลกกับความเหนื่อยหลายท่านอาจจะพอใจ ลองคิดดูขนาดเราเอารถไปล้างอัดฉีดจากสถานที่ที่บริการ ยังไม่กระทำตรงจุดนี้ให้เลย(ถูกต้องนะครับ) หากท่านกระทำได้ จะส่งผลดีกับตัวยาง ได้แก่
- ขณะรถยนต์เคลื่อนที่จะไม่เกิดเสียงดัง
- ยางสามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดอัดตราการฉีกขาดของยาง
- ข้อนี้ถือว่าสำคัญนั่นคือ ความปลอดภัย ย่อมมากขึ้นด้วย
สำหรับวันพักผ่อนที่แสนสบายของเจ้าของรถ ไหน ๆ ก็ทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในแล้ว ขอให้เสียสละเวลากับยางกันสักนิด โดยที่กระทำตามที่กล่าวมา ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านทำได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าวัสดุที่ติดมากับยางที่เป็นของเหลว ให้ทำการล้างออกเสียก่อน มิฉะนั้น จะได้รับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ จากนั้นค่อยกำจัดวัสดุที่ติดมากับยางต่อไปครับ
อนึ่ง การปฏิบัติดังกล่าว สำหรับรถยนต์ที่ยกสูง สามารถทำการปฏิบัติได้โดยง่าย แต่สำหรับรถยนต์ที่มีความเตี้ยอาจจะลำบากสักหน่อย แต่ค่อย ๆ ทำทีละนิด จนครบนะครับ ตามเส้นรอบวงและการปฏิบัติตรวจสอบแล้วว่าวัสดุที่ติดตำยาง เวลาดึงออกแล้วจะทำให้ยางรั้วลักษณะเช่นนี้ไม่ควรทำ ให้นำรถไปร้านยางจะดีที่สุด และถ้าหากยางเกิดรั่ว หลังจากที่ทำการปะยางแล้ว อย่าลืมบอกให้ร้านปะยางทำการถ่วงยางด้วยนะครับ มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อการควบคุมรถยนต์ และ สมรรถนะในการขับขี่ได้นั่นเองครับ
ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านร่ำรวย มีความสุข สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น